Move to Heaven “ทุกการตายมีเรื่องราว” หนังเกาหลีน่าดู เรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งโรค Asperger Syndrome ซึ่งมีปัญหาในการเข้าใจอารมณ์ของคนรอบข้าง และปฏิสัมพันธ์ทางสังคม แต่มีความสามารถในการจดจำทุกอย่างได้ เดียงแค่ดูเพียงครั้งเดียว กับอาชีพ ที่พ่อของเขาทิ้งไว้ให้ คือบริษัททำความสะอาดสถานที่ หลังจากที่คนตายไปแล้ว ซึ่งอาชีพนี้มีอยู่จริงๆ ในคำถามที่ว่า “ผู้ตายอยากจะบอกอะไรกับเรา และ เขาเหล่านั้นต้องการจะสื่ออะไรถึงคนเป็น!!!”

เด็กหนุ่มคนหนึ่ง เขาทำงานกะดึก ขณะที่เขากำลังตรวจสอบเครื่องจักร เครื่องทำงานผิดปกติ ปุ่มหยุดทำงานของเครื่องกดไม่ได้ เท้าข้างหนึ่งของเขา ถูกเครื่องจักรหนีบ เขาร้องด้วยความเจ็บปวด ณ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งหนึ่ง เด็กหนุ่ม ที่ชื่อว่า กือรู เขาเป็นโรค Asperger Syndrome ซึ่งมีปัญหาในการเข้าใจอารมณ์ของคนรอบข้าง และปฏิสัมพันธ์ทางสังคม แต่เขากลับมีความสามารถในการจดจำทุกอย่างได้อย่างแม่นยำ เพียงแค่ดูเพียงครั้งเดียว เขามีเพื่อนบ้านที่แสนดีเป็นสาวสวยชื่อว่า ยูนา เธอเป็นเพื่อนที่ดี และคอยช่วยเหลือกันมาโดยตลอด

กือรู อาศัยอยู่กับพ่อ ซึ่งพ่อของเขา ทำธุรกิจของครอบครัวที่ชื่อว่า Move to Heaven และในวันหนึ่ง กือรู กับ พ่อของเขา ได้เดินทางมาที่อพาตเมนต์แห่งหนึ่ง ที่เป็นสถานที่ผู้ตายคนหนึ่ง พึ่งเสียชีวิต ซึ่งเจ้าของอพาตเม้นต์ ต้องการให้พวกเขาทำความสะอาดอพาตเม้นต์ของเธอ ให้ไวที่สุด

ก่อนที่พวกเขา จะทำความสะอาดห้องผู้ตาย ก่อนที่พวกเขาจะทำความสะอาด พวกเขาจะต้องถอดหมวก และแจ้งวันตายให้แก่ผู้ตาย เพื่อเป็นการเคารพแก่ศพ และดวงวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว พ่อของเขาจะทำหน้าที่ เก็บกวาดทุกอย่างลงถุงดำ ส่วนกือรู จะทำหน้าที่มัดถุง และเตรียมไปทิ้ง ทุกครั้ง ที่พวกเขาทำความสะอาด จะเก็บของมีค่าที่สำคัญ ของผู้ตาย เก็บไว้ในกล่องสีเหลือง เพื่อแยกไว้ และส่งมอบให้ญาติผู้ตายต่อไป

พ่อของกือรู จะพยายามนั่งมองสิ่งของต่างๆ และพยายามอ่านใจคนตาย พวกเขาพบว่า สำหรับคนตายรายนี้ เป็นเด็กหนุ่ม ที่เพิ่งทำงานประจำ เขาได้เสียชีวิตจากบาดแผลขนาดใหญ่ จากเครื่องจักรหนีบ เขาไม่ไปโรงพยาบาลเพราะต้องเสียเงินจำนวนมาก หลังจากนั้นเขาก็นอนและเสียชีวิตอยู่ที่ห้องนั้น โดยยังไม่บอกความในใจต่อผู้หญิงที่ชอบ หรือบอกลาพ่อและแม่

หลังจากที่ กือรูและพ่อ ทำความสะอาดเสร็จ ก็ได้ไปร่วมงานศพของเด็กหนุ่มที่เสียชีวิต ได้ไปเจอหัวหน้าของเด็กหนุ่ม ที่แจ้งพ่อแม่ของเด็กว่า เด็กหนุ่มเสียชีวิตในที่พัก โดยไม่เกี่ยวกับงานเลย และจะไม่มีเงินชดเชยใดๆ และมอบเงินใส่ซองขาวให้พ่อแม่เด็กหนุ่ม กือรูและพ่อจึงไปแสดงความเสียใจกับพ่อแม่ของเด็กหนุ่ม และพบว่า พ่อแม่เด็กหนุ่มเป็นไบ้ และไม่สามารถสื่อสารได้

กือรู ยื่นกล่องสีเหลืองให้พ่อแม่ของเด็กหนุ่ม ซึ่งพวกเขาเปิดดู และร้องไห้ ได้หยิบโทรศัพท์มือถือของลูกขึ้นมาดู และพบว่า วันที่ลูกไปทำงาน เครื่องจักรมีปัญหา แต่หัวหน้าเลือกที่จะให้เด็กใหม่ไปทำงานแทน ทั้งๆที่การทำงานคนเดียวนั้นอันตรายมาก แต่พวกเขาก็เมินเฉยและไม่รับผิดชอบกับการตายของเด็กหนุ่ม

เมื่อพ่อกือรู ได้ยินพวกหัวหน้างาน พูดถึงเด็กหนุ่ม และดีใจที่พ่อแม่ของเด็กหนุ่มเป็นไบ้ พ่อกือรูรู้สึกโมโห บอกให้กือรูไปรอข้างนอกก่อน แล้วพ่อกือรูก็เป็นล่าม ให้พ่อแม่ของเด็กหนุ่ม ในการเจรจากับหัวหน้างาน

หลังจากที่กือรูและพ่อ เสร็จจากงานศพของเด็กหนุ่ม พ่อของกือรู บอกให้เขารออยู่ตรงข้างนอกก่อน และพ่อของเขา ได้เดินทางไปหาทนายความ แล้วพอเสร็จธุระเขารีบจะไปหากือรู ระหว่างเดินทาง เขารู้สึกเจ็บหน้าอก และทรุดตัวลงทันที เขารีบกดโทรศัพท์ไปหากือรู แล้วพูดว่า ขอโทษนะ แล้วเขาก็เสียชีวิต

พ่อของกือรู มีน้องชายชื่อว่า โจซังกู ซึ่งเพิ่งจะพ้นโทษออกจากเรือนจำ ทนายความ ได้เดินทางมาหาเขาในวันปล่อยตัว และได้พูดคุยกับเขา เรื่องพินัยกรรมที่พ่อกือรูทำไว้ให้ โดยในพินัยกรรมระบุว่า เขาต้องไปอยู่บ้านกับกือรู และต้องไปทำงานกับกือรู เป็นหนึ่งในพนักงานของ Move to Heaven โดยมีกฎว่า เขาต้องทำงานอยู่ให้ครบ 3 เดือน เขาถามทนายว่า พี่ชายเขามีเงินเก็บอยู่เท่าไหร่ ทางทนายแจ้งว่า บอกไม่ได้ แต่มีมากพอที่จะเลี้ยงกือรูให้สบายไปตลอดชีวิต

ยูนา เพื่อนของกือรู รู้สึกเสียใจต่อ กือรู และระหว่างที่พวกเขา จัดงานศพให้กับพ่อของกือรู ก็มีชายคนหนึ่งที่มาหาพวกเขาที่บ้าน เขาชื่อว่า โจซังกู เขาได้บอกกับ กือรู และ ยูนา ว่าบ้านหลังนี้เป็นของเขาแล้ว เพราะเขาเป็นน้องชายของพ่อกือรู และจะเป็นผู้ปกครองคนต่อไปของ กือรู โดยมีทนายความตามมาภายหลัง และได้บอกกับพวกเขาทั้งสองว่า โจซังกู เป็นอาของกือรู และจะเป็นผู้ปกครองของเขา

กือรู หวงของทุกอย่างที่เป็นของพ่อเขา จนทำให้ โจซังกู ต้องเอาเต้นท์มากางนอนอยู่กลางบ้าน และกือรู ก็ตั้งกฎว่า โจซังกู ต้องทำทุกอย่างตามที่กือรูต้องการ และห้ามยุ่งกับของทุกอย่างที่เป็นของพ่อเขา โดยทุกวัน กือรูจะทำกับข้าวสองชุด ให้กับพ่อเขาที่ตาย กับตัวเขา ส่วน โจซังกู ก็ต้มมาม่ากิน

ในวันนี้ มีงานโทรเข้ามา ทำให้กือรูกับ โจซังกู ต้องไปทำงานกัน ที่สลัมแห่งหนึ่ง โดยสองผัวเมียได้สั่งงานกับพวกเขา เมื่อกือรูไปทำความสะอาด และเก็บของสำคัญของคนตาย และมอบให้กับญาติสองผัวเมีย แต่พวกเขาไม่สนใจสิ่งของ เขาอยากได้ของมีค่า กือรู เลยบอกว่ามี และพาพวกเขาไปดู เป็นธนบัตร ที่สกปรก มีคราบอะไรมากมาย สองผัวเมัยได้นับไว้ และมอบหมายให้กือรูไปทำความสะอาด และเอามาคืนให้ครบด้วย

การทำงานเก็บกวาดบ้านคนตาย เป็นงานที่ทำให้ โจซังกู แทบจะอ๊วก และไม่เข้าใจ ว่าทำไปทำไม ได้อะไร กือรู ก็พยายามจะอธิบายให้เขาเข้าใจ ถึงความสำคัญของงานนี้ และมีความหมายต่อคนตายอย่างไร หลังจากนั้น กือรู ได้เอาธนบัตร มาทำความสะอาดใหม่ และฆ่าเชื้อ จนสะอาด เขาพบความผิดปกติบางอย่างของธนบัตร และเมื่อเรียบเรียงเรื่องราว กือรูก็พบว่า คนตายเป็นคุณยาย ที่อยากจะตัดสูทสวยๆ ให้กับลูกชาย จึงพยายามจะเก็บสะสมเงินก้อนนี้ เพื่อไปจ่ายค่าสูท และเขาก็ได้วางแผน เพื่อจะนำลูกชายของเขา ที่อยากจะได้แต่เงินของแม่อย่างเดียว ให้ได้พบความจริง สิ่งที่แม่ต้องการ ตามที่ผู้ตายอยากจะบอก

และก็มีอีกงาน ผู้ตายอยู่อพาตเม้น โดยสามีแจ้งว่า ภรรยาถือมีด และเกิดอุบัติเหตุ ทำให้มีดมาแทงที่ท้องของผู้ตาย แต่ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อ เมื่อกือรู และ อาของเขา ไปเก็บกวาดทำความสะอาด จนในที่สุด กือรู ก็พบความจริงว่า ที่ห้องนั้น มีกล้องวงจรปิดซ่อนอยู่ด้านบนของครัว เขาจึงไปนำมาส่งให้ตำรวจ จนทำให้ตำรวจสามารถจะจับสามีของผู้ตาย ด้วยหลักฐานว่า เขาเป็นคนลงมือฆ่าภรรยาของตนเอง

โจซังกู จริงๆแล้ว เขาเป็นนักมวยเก่า ที่มีชื่อเสียง ด้วยเขาต้องการจะรักษารุ่นน้อง ที่ป่วยอาการหนัก ที่โรงพยาบาล จึงทำให้ในอดีต เขาต้องขึ้นชกมาหลายคู่ และชนะทุกครั้ง เพื่อหาเงินมารักษารุ่นน้องที่เขารักคนนี้ แต่แล้ววันหนึ่ง เขาพลาด ที่ไปชก แล้วทำให้คู่ชกของเขาตาย จนเป็นเหตุให้เขาต้องติดคุก และพ้นโทษมานี่เอง

วันนี้ก็มีงานใหม่เข้ามา เป็นหมู่บ้านของคนรวย และค่าตอบแทนในการทำความสะอาดสถานที่ของคนตาย ก็ได้เงินก้อนโต ผู้ตายรายนี้ เป็นคุณหมอซูฮยอน ที่เป็นลูกคนรวย เขาได้เสียชีวิต เพราะมีโจรเข้าไปในโรงพยาบาล และจับตัวพยาบาลเป็นตัวประกัน คุณหมอซูฮยอน ได้ไปขัดขวาง และพลาดโดนปาดคอจนเสียชีวิต

ในการเก็บกวาด ทำความสะอาดบ้านของคุณหมอซูฮยอน กือรู พบว่า คุณหมอมีความในใจบางอย่างให้กับคนรัก ที่เป็นชายด้วยกัน เขาเป็นนักดนตรี แต่พ่อแม่ของคุณหมอ ไม่สามารถยอมรับได้ จึงให้พวกเขาเลิกติดต่อกัน จนถึงวันที่คุณหมอตาย ยังคงเก็บของสำคัญนี้เพื่อมอบให้กับคนที่เขารัก และกือรู ก็สามารถส่งมอบของสำคัญนั้น ให้กับคนรักของคุณหมอได้สำเร็จ ตามที่คนตายต้องการ

สำหรับในครั้งนี้ Move to Heaven ได้รับเงินโอนล่วงหน้า โดยไม่มีผู้ระบุนาม ได้โอนเงินจำนวนหนึ่ง เข้ามาในบัญชีล่วงหน้า และส่งสถานที่ที่จะให้ไปทำความสะอาด เมื่อไปถึง ก็พบว่า เป็นศพของคู่สามีภรรยา ที่นอนตายกันอยู่บนเตียง โดยคุณลุงผู้ตาย มีโรคประจำตัว และภรรยาก็มีโรคประจำตัว ทั้งคู่ต้องการจะตายร่วมกัน และตัดสินใจร่วมกันที่จะเสียชีวิตในครั้งนี้ โดยผู้ที่จองการทำความสะอาดสถานที่ตายในครั้งนี้แท้จริงคือ คุณลุงสามีผู้ตายนั่นเอง

โจซังกู เคยมีอดีตที่ปวดร้าว ในการชกกับรุ่นน้องที่เขาเคยเป็นเทรนเนอร์ให้ โดยในการชกครั้งนั้น รุ่นน้องเขาได้แพ้ และมีอาการหนัก นอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล โดยมีน้องสาวคอยดูแล จนวันหนึ่ง น้องสาวของคนป่วย ได้โทรหาโจซังกู ว่าอาการของเขาแย่ลงมาก คุณหมอบอกให้ทำใจ แต่โจซังกูได้ตัดสินใจ จะให้หมอผ่าตัดรักษา โดยโจซังกูตัดสินใจ ไปค้นหาหลักฐานการครอบครองสินทรัพย์ของบ้าน Move to Heaven มาเป็นหลักฐานค้ำประกันใหักับเจ้คนสวย

เจ้คนสวยนี้เป็นคนอยู่เบื้องหลัง ในการจัดการชกต่อยแบบใต้ดินในการเดิมพันของนักเดิมพันทั้งหลาย และเขาจะเอาเงินไปรักษารุ่นน้องคนนี้ แต่ไม่ทัน มันสายเกินไป รุ่นน้องของเขาได้เสียชีวิตลงก่อนการผ่าตัด โจซังกูรู้สึกเสียใจมาก และในครั้งนี้ เขาตัดสินใจเป็นคนทำความสะอาดสถานที่ของผู้ตายเอง และพบความจริงว่า รุ่นน้องของเขา เป็นโรคเยื่อหุ้มสมองเสื่อม ก่อนที่จะขึ้นชกกับเขา มันทำให้เขารู้สึกเสียใจมาก

โจซังกู รู้สึกผิด จึงคิดว่าจะไม่กลับไปหากือรูอีก เขาจะหาเงินด้วยวิธีของเขา คือทำงานแรงงาน เพื่อหาเงินไปถ่ายคือโฉนดบ้านจากเจ้คนสวย ทำให้กือรู รู้สึกเป็นห่วงอาของเขา จึงติดประกาศหาทั่วไปหมด วันหนึ่ง มีรถตู้ของเจ้คนสวยได้มาจัก กือรูมาขังไว้ และส่งไปให้ในมือถือของโจซังกู จนเขารีบตามไปพบ และทำข้อตกลงกันว่า ขอโฉนดบ้านของ Move to Heaven คืนทั้งหมด แลกกับการที่เขาจะต้องขึ้นชกอีกครั้ง โดยเจ้คนสวยสัญญาว่าจะคือให้ ในวันก่อนขึ้นชก

วันนี้ เป็นวันที่กือรู และพ่อของเขา ในอดีต จะมีสิ่งที่ต้องทำด้วยกัน โดยกือรู สั่งห้ามไม่ให้ โจซังกูตามมา แต่ยูนาเพื่อนสาวของเขา บอกให้โจซังกู แอบตามไป และเขาก็ได้พบความจริงว่า วันนี้ กือรู มาที่สนามเด็กเล่น และเขาอยากเล่นเครื่องเล่นหลายอย่างแต่ไม่กล้า โจซังกู จึงกระชากมือเขาและพาเขาไปเล่นจนครบเครื่องเล่นที่เขาอยากเล่น และเขากก็บอกไม่ให้อาของเขา ตามเขามาอีก เพราะเขาจะไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง ซึ่งนั่นคือสถานที่ โจซังกูเคยมีอดีตกับพ่อของกือรูนั่นเอง

โจซังกู เห็นกือรู ซื้อรองเท้าไนกี้ และนำหินมาตั้งไว้อาลัย จึงรู้สึกสงสัย และถามว่า ทำแบบนั้นเพื่ออะไร เขาเลยเล่าให้ฟังว่า ในอดีต พ่อของเขา บอกให้เขาทำการไว้อาลัยให้กับน้องชายของเขา ที่หาไม่เจอ ทุกปีที่นี่ และเขาได้บอกกับโจซังกูว่า พ่อจะเก็บของทุกอย่างไว้ในห้องใต้ดิน ในตู้ล็อกเกอร์ ตกดึก โจซังกู เลยแอบไปที่ห้องใต้ดิน และเปิดตู้ล็อกเกอร์ขึ้น

เขาพบว่า ในตู้ล็อคเกอร์ มีรองเท้าไนกี้ ที่เขาเคยอยากได้ และ พ่อของกือรู เคยสัญญาว่า ให้รอตรงนี้ จะไปซื้อมาให้ แต่ก็ไม่เคยมา แท้จริงแล้ว ในวันที่ไปซื้อรองเท้า ไนกี้ ในห้างนั้น เกิดอาคารถล่ม ทำให้พ่อของกือรูติดอยู่ในซากที่ล้มลงมา ทำให้เขาไม่ไปตามสัญญา และในตู้ล็อคเกอร์ ก็มีรองเท้าไนกี้จำนวนมาก เก็บไว้ทุกปี และมีประกาศตามคนหาย ที่พ่อของกือรู เคยทำไว้ เพื่อตามหาโจซังกู ทำให้เขาน้ำตาไหล ที่เข้าใจพี่ชายผิดมาโดยตลอด และพบหลักฐานสำคัญว่า กือรูเป็นลูกบุญธรรมที่พี่ชายเขา ได้รับอุปการะไว้

เจ้สวยได้ส่งข้อความให้ โจซังกู ว่าวันนี้ เป็นวันนัดชกตามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้ เช้าวันนี้ โจซังกู ได้มาทำอาหารให้กือรูทานเป็นครั้งแรก และพูดจาดีๆ กับยูนา และฝากฝังให้ยูนาช่วยดูแลกือซูด้วย แล้วเขาก็ออกจากบ้านไป จนทำให้ยูนารู้สึกประหลาดใจ และได้ไปพูดคุยกับกือซู จนทำให้ทั้งคู่รู้ว่า วันนี้ โจซังกู จะไปชกในนัดสำคัญ และเขาอาจตายได้ จึงทำให้ กือซู และยูนา รีบขับรถออกไปยังสถานที่ที่กือซูเคยถูกขังและจับตัวไปเมื่อคราวก่อน

กือซู ไม่รอช้า รีบโทรหาตำรวจสาว ที่เคยให้เบอร์เขาไว้ และบอกเวลานัดชกของโจซังกู และเมื่อไปถึงที่นั่น โจซังกู กำลังชกกับคู่ชกที่ท้าชิงอยู่ แรกๆ เขาดูเหมือนว่าจะมีคะแนนนำ และชกได้ดีกว่า แต่คู่ต่อสู้เล่นไม่ซื่อ ซ่อนของมีคมไว้ในมือ และหมายจะฆ่าเขา ขณะที่เขากำลังถูกของมีคมบาดใบหน้าสาหัส และกำลังจะถูกเชือดคอนั้น กือซู และยูนาก็มาถึง และกือซูจำรหัสเข้าในสถานที่นี้ได้ และกือซูจำได้ว่ามีสวิตไฟอยู่ตรงไหน และพวกเขาก็ดับไฟ และยูนารีบเข้าไปช่วยพาตัวโจซังกูออกมา ก่อนที่เขาจะถูกฆ่าตาย

ขณะนั้นเองก็มีตำรวจหญิง ที่กือซูได้โทรหา บุกเข้ามาพอดี และจับกุมการชกมวยเถื่อนในครั้งนี้ ส่วนกือซู และยูนา ก็รีบพาตัว โจซังกู ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล และกือซูก็เฝ้าอยู่ที่นั่น เขาเริ่มเปิดใจรับโจซังกูเป็นผู้ปกครองอย่างเต็มใจ และเมื่อเขาออกจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้าน กือซู ก็ทำอาหารเช้า 3 ที่ ให้กับตัวเอง พ่อของเขาที่ตายไปแล้ว และโจซังกูเป็นครั้งแรก พวกเขาทานอาหารกันอย่างอร่อย และนี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับการเปิดใจในครั้งนี้

วันนี้ก็เป็นวันที่ครบ 3 เดือนตามสัญญาพินัยกรรม และต้องทำการฝังกระดูกพ่อของกือรู ทนายความได้บอกว่า ผมติดตาม โจซังกู มาตลอด 3 เดือน และเห็นว่า คุณไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมจะเป็นผู้ปกครอง เขาถึงกับน้ำตาซึม และกำลังจะเดินจากไป ทนายความก็บอกอีกว่า แต่กือรู ต้องการให้คุณเป็นผู้ปกครองต่อไป นั่นคือการตัดสินใจที่สำคัญของกือรู จึงเป็นผลให้ โจซังกู ได้เป็นผู้ปกครองของกือรู อย่างแท้จริง

วันนี้ ก็มีสาวน้อยคนหนึ่ง ได้มาพบกือรู ที่ Move to Heaven แล้วเธอได้บอกกับ กือรูว่า ขอจองใช้บริการหน่อย เมื่อกือรูดูชื่อ และก็รู้ว่า ผู้ที่บอกเขา กับผู้ที่จะใช้บริการ เป็นคนเดียวกัน เขาถึงกับประหลาดใจ เมื่อจ้องมองสาวน้อยคนนี้ ทำให้เขารู้สึกประหลาด และหนังก็จบเพียงเท่านี้

การดำเนินเรื่อง จะดูช้าๆ ง่ายๆ เรียบๆ สบายๆ แต่แฝงไปด้วยแง่คิด และคติสอนใจต่างๆ ให้เราได้คิดตาม สถานที่ถ่ายทำ มุมกล้อง คือสวยดี มีความลงทุน ดนตรีประกอบ คือเป็นหนังเกาหลี แต่ซาวน์ประกอบ ดูมีความอินเตอร์ เหมือนหนังฝรั่ง

การเล่าเรื่อง พล็อต คือชอบไอเดียของหนังมากๆ เป็นการเล่าเรื่องผ่าน การจัดเก็บที่เกิดเหตุ และการเสนอเรื่อง ที่คนตายอยากจะสื่อ
คือเป็นการผสมผสานทุกอย่าง ได้อย่างลงตัว ทั้งการทำความสะอาดจุดเกิดเหตุ ความตาย แง่คิด วิทยาศาสตร์ และการสืบสวน คือคิดออกมาได้ไง ดูแตกต่าง แต่ลงตัวดี

ชื่นชมเลย ว่าวงการซีรี่ศืเกาหลี ไม่เคยหยุดอยู่กับที่ และมีอะไรใหม่ๆ ให้ดูตลอดเวลาจริงๆ ไม่แปลกเลย ที่คนส่วนมากทั่วโลก จะชอบ ชื่นชม หนัง และซีรี่ส์เกาหลี และชอบดู คือความคิดของวงการซีรี่ส์บ้านเขา ไม่เคยนิ่งจริงๆ ต่างจากบ้านเราสุดๆ ที่ไม่พ้นแนวเดิมๆ แต่บ้านเขา คือมีความสดใหม่ตลอด ทำเรื่องที่ธรรมดา ไม่น่าสนใจ ให้ดูสนุก และน่าสนใจขึ้นมาได้

นักแสดง ทุกคนคือเล่นดี ดูแล้วอิน กือรู คือเล่นดีมากๆ นามู คือเป็นเพื่อนที่ดีสุด คนที่เล่นเป็นพ่อกือรูด้วย และที่ชอบสุดๆ ดูเรื่องนี้ คือเพราะเห็นหน้าพระเอก หรือคุณอา ของเรานี่แหละ เล่นดีมาก

สรุป
สำหรับหนังเรื่องนี้ Mote to Heaven เป็นหนังเกาหลี ที่น่าดูมากๆ ด้วยเนื้อเรื่องแต่ละตอนชวนติดตาม และให้แง่คิด การแสดงที่ดีงาม บทที่ดีงาม ในแต่ละตอนจะทำให้คุณน้ำตาไหลได้เลยทีเดียว เรื่องราวเกี่ยวกับ บริษัทที่ทำหน้าที่ เก็บกวาดทำความสะอาดหลังจากการตายของผู้เสียชีวิต และการแกะร่องรอย การสั่งเสีย ของผู้ตาย ว่าต้องการจะให้ทำอะไร ให้กับใครที่มีความผูกพันธ์กับผู้ตาย และหน้าที่สำคัญนอกจากการทำความสะอาดแล้ว ก็คือการสานต่อความสัมพันธ์ของผู้ตาย ด้วยสิ่งของที่ระลึก ที่ฝากมอบให้กับคนสำคัญเหล่านั้นนั่นเอง