เจ้าหน้าที่ประมาณ 9,000 คน ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในท่าอากาศยานนานาชาติชางงี ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามคำสั่งของรัฐบาลสิงคโปร์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ว่า สำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติของสิงคโปร์ และการท่าอากาศยานชางงี ออกแถลงการณ์ร่วมกัน เรื่องการตรวจคัดกรองบุคลากรทุกคนประจำท่าอากาศยานนานาชาติชางงี รวมประมาณ 9,000 คน ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารผู้โดยสารหมายเลข 1 และ 3 อนึ่ง อาคารผู้โดยสารหมายเลข 2 ไม่ได้มีการใช้งานในเวลานี้
 
แม้ 92% ของบุคลากรด่านหน้าด้านงานอากาศยานของสิงคโปร์ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว แต่ในรอบ 10 วันที่ผ่านมา มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 อย่างน้อย 8 คนเป็นผู้ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ ถือว่าน่าวิตกกังวล และบ่งชี้ว่าทุกคนยังคงมีความเสี่ยง

ทั้งนี้ การตรวจคัดกรองบุคลากรที่ท่าอากาศยานนานาชาติชางงีเริ่มเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่กระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์รายงานด้วยว่า พบเจ้าหน้าที่ประจำการท่าเรือแห่งชาติติดเชื้อแล้ว 4 คน
 
ปัจจุบันสิงคโปร์มีสถิติผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 อย่างน้อย 61,359 คน เพิ่มขึ้น 28 คน ยังคงเหลือผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีกอย่างน้อย 133 คน และที่สถานกักกันอีกอย่างน้อย 262 คน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมมีอย่างน้อย 31 ราย
 
สำหรับคลัสเตอร์โรคโควิด-19 ขนาดใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ ณ เวลานี้ คือการแพร่ระบาดที่โรงพยาบาลตัน ต็อก เส็ง หนึ่งในโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยผู้ป่วยหลายคนในกลุ่มติดเชื้อสายพันธุ์ บี1617 ที่เป็นเชื้อกลายพันธุ์จากอินเดีย และผลตรวจทางพันธุกรรมของเชื้อในร่างกายของผู้ป่วยจากในประเทศกลุ่มล่าสุด 10 คน บ่งชี้ในเบื้องต้นว่า มีอย่างน้อย 4 คนติดเชื้อสายพันธุ์จากอินเดีย