เจ้าหน้าที่รัฐบาลเนปาล เผยนักปีนเขาต่างชาติหลายคนยังคงพยายามพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ให้ได้ แม้มีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เบสแคมป์ของยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกแล้ว 100 รายก็ตาม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ว่า นายลูคัส เฟอร์เตนบาค แห่งบริษัทผจญภัยเฟอร์เตนบาคจากประเทศออสเตรีย เปิดเผยกับรอยเตอร์ทีวีในกรุงกาฐมาณฑุ ว่า เขาได้สั่งการให้อพยพทีมงานบริษัทของเขา ออกจากพื้นที่ของยอดเขาเอเวอเรสต์ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกในเดือน พ.ค.นี้ เพราะมีการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ถึง 100 รายที่เบสแคมป์ หรือแคมป์ที่พักของนักปีนเขาที่จะขึ้นไปพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ยืนยันโดยแพทย์ โรงพยาบาล บริษัทประกันภัย หัวหน้าทีมสำรวจการปีนเขา และนักบินเฮลิคอปเตอร์ซึ่งนำผู้ป่วยบินออกมาจากเบสแคมป์ รวมทั้งนักปีนเขาเองด้วย
เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา นักปีนเขาชาวนอร์เวย์รายหนึ่งถูกให้อพยพออกจากเบสแคมป์ของยอดเขาเอเวอเรสต์สูง 8,848 เมตร แล้วนำส่งมาที่กรุงกาฐมาณฑุ เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อพบเชื้อ เจ้าหน้าที่ได้ทำการรักษาและเมื่อหายป่วย ก็เดินกลับประเทศ
แต่ น.ส.มิรา อาชรยา อธิบดีกรมการท่องเที่ยวของเนปาล ซึ่งดูแลกิจกรรมปีนเขาเอเวอเรสต์ในฝั่งประเทศเนปาล บอกว่า รัฐบาลเนปาลยังไม่ได้รับรายงานการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เบสแคมป์ของยอดเขาเอเวอเรสต์ และการปีนเขายังคงดำเนินต่อไปได้จนสิ้นสุดฤดูกาลปีนเขา ซึ่งจะหมดลงในสัปดาห์หน้า นอกจากนั้นก็ไม่พบการตื่นตระหนกของนักปีนเขาที่เบสแคมป์เลย ซึ่งตัวเธอเองได้ไปเยี่ยมเบสแคมป์มาแล้วด้วยเมื่อต้นเดือนนี้ แต่หากพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพียงไม่กี่ราย เชื่อว่าที่เบสแคมป์จะสามารถบริหารจัดการได้อย่างทันท่วงที
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พบว่ามีนักปีนเขาต่างชาติ 180 คน และเชอร์ปาคนนำทางท้องถิ่นได้ขึ้นไปถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ และคาดว่าจะมีอีกมากในสัปดาห์นี้
เนปาลมีรายได้หลายล้านดอลลาร์สหรัฐจากการปีนเขา ซึ่งจัดกิจกรรมทุกปี โดยปีนี้ได้ออกใบอนุญาตปีนเขาให้กับนักปีนเขาต่างชาติ 408 คน ช่วงเดือน เม.ย.ถึง พ.ค.นี้ หลังจากปีที่แล้วต้องปิดการปีนเขาไปเพราะการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19